ไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพ
วันหยุดยาวนี้สำหรับใครที่ยังไม่มีแพลนไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวในกรุงเทพฯแทน ภัสสรชัยทัวร์ขอเอาใจสามูด้วยทริปไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพฯ เพื่อไปกราบไหว้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสริมสิริมงคล เสริมโชคลาภ เปิดรับความเฮง ความปัง ให้กับตัวเอง ถ้าพร้อมแล้วไปดู 9 วัดในกรุงเทพฯ ที่สายมูไม่ควรพลาด ว่าจะมีวัดไหนบ้างตามมาเลย
1. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (วัดภูเขาทอง)
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือวัดภูเขาทอง สะดือกรุงเทพ หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองกรุงเทพมหานคร เป็นวัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โดดเด่นด้วยพระเจดีย์สีทองสูงมีความวิจิตรงดงาม เป็นสง่าเหลืองอร่ามอยู่ท่ามใจกลางกรุงเทพมหานคร มีบันไดทั้งหมด 344 ขั้น นิยมนำดอกดาวเรือนมากราบไหว้ ขอพรด้านความสำเร็จมั่นคงชีวิต เช่น ด้านการงาน การซื้อขายที่ดิน ด้านความรัก ถือเป็นอีกวัดในกรุงเทพฯ ที่สายมูไม่ควรพลาด
การเดินทาง: MRT สถานีสามยอดต่อรถเมล์สาย 8, 37, 48 หรือรถประจำทางสาย 8, 15, 37, 47, 49
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/8SKUSz8Ge5g2S4HRA
เวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน 07.00-19.00 น.
ค่าเข้าชม : –
ที่จอดรถ : มีที่จอดรถภายในวัด และสามารถ
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/watsraket
2. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ตั้งอยู่ในเขตพระบรมมหาราชวัง เขตพระราชฐานชั้นนอก ทางทิศตะวันออก ติดท้องสนามหลวง เป็นที่ประกอบพระราชพิธีที่สำคัญทางศาสนา ถูกสร้างขึ้นในพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ในปี พ.ศ.2325 สมัยรัชกาลที่ 1 ภายในมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม ประดับครุฑยุดนาคหล่อด้วยโลหะปิดทอง และภาพจิตรกรรมฝาผนังต่างๆ ภายในประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองไทยเลยก็ว่าได้
การเดินทาง: MRT สามารถลงได้ที่ สถานีสนามไชย ใช้ทางออกที่ 1 หรือ BTS ตากสิน แล้วนั่งเรือข้ามฟากมาที่ท่าช้าง หรือรถประจำทาง สาย 1, 3, 9, 15, 25, 30, 32, 33, 39, 43, 44, 53, 59, 64, 80, 82, 91,201, 203 ปอ.501, 503, 508, 512
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/BkZzDzaqAVDLX4wp8
เวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน 08.30-15.30 น.
ค่าเข้าชม : คนไทย เข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ชาวต่างชาติ ค่าเข้าชม บัตรราคา 500 บาท
ที่จอดรถ : จอดรถได้ที่ท่ามหาราช (มีค่าบริการ)
เว็บไซต์ : https://www.royalgrandpalace.th
3. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
มาต่อกันกับวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดพระแก้ว เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธไสยาสน์ หรือ พระนอนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ และเป็นวัดที่มีพระพุทธรูปประดิษฐานมากเป็นอันดับต้นๆ ของไทย นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญ นั่นก็คือพระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ที่ไม่ว่าชาวไทยหรือชาวต่างชาติก็มักจะหยุดและตั้งกล้องถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
นอกจากนี้ชาวต่างชาตินิยมมาเรียนและใช้บริการนวดเพื่อสุขภาพ อีกทั้งองค์การยูเนสโกยังได้ทำการขึ้นทะเบียนให้วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) เป็นมรดกความทรงจำโลกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย
การเดินทาง : เรือด่วนเจ้าพระยา ลงท่าเตียน หรือ ท่าช้าง หรือรถประจำทาง สาย 1, 3, 6, 9, 12, 25, 43, 44, 47, 53, 60, 82, 91, 123, ปอ. 501, 508
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/pfQZhPhDaencxvy3A
เวลาเปิดทำการ : 08.30-20.00 น.
ค่าเข้าชม : คนไทย เข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ชาวต่างชาติ ค่าเข้าชม บัตรราคา 100 บาท
ที่จอดรถ : มีที่จอดรถในวัด (เสียค่าบริการ)
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/watphonews
4. วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
ข้ามมาไหว้พระย่านฝั่งธนฯ กันบ้าง กับวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเทพตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ของไทยที่เป็นการผสมผสานศิลปะไทย-จีนได้อย่างสวยงามลงตัว ภายในพระวิหารหลวงมีองค์พระประธาน คือพระพุทธไตรรัตนนายก หรือ “หลวงพ่อโต” หรือที่คนจีนเรียกว่า “ซำปอกง” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ และมีความศักดิ์สิทธิ์มาก เชื่อกันว่าจะทำให้ประสบความสำเร็จในการค้าขาย มีความมั่งคั่งร่ำรวย
ภายในพระอุโบสถของวัดได้มีการจำลองมาจากวัดพนัญเชิง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่รับรองว่าใครที่มาไหว้พระที่วัดแห่งนี้นอกจากจะอิ่มบุญแล้วยังได้รูปสวยๆ ไว้อวดเพื่อนอีกด้วย
การเดินทาง: MRT : ลงสถานีอิสรภาพ ออกทางประตู1 หรือ นั่งเรือข้ามฟากจากท่าเตียน หรือรถประจำทาง สาย 149, 40, 50 ปอ. 177
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/5LWaVJvPn1KF1BKw8
เวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน 07.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม : –
ที่จอดรถ : มีที่จอดรถบริเวณลานหน้าวัด (เสียค่าบริการ)
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/WatKanlayanamitra
5. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง)
มาต่อกันกับวัดที่ 5 นั่นก็คือวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา อยู่ห่างจากวัดกัลยาณมิตรประมาณ 10 – 15 นาที เอกลักษณ์ของวัดนี้คือ พระปรางค์ขนาดใหญ่ ที่มีศิลปะอันวิจิตรงดงามโดดเด่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา บอกได้คำเดียวว่า ณ. วัดแห่งนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สวยงามอยู่มากมาย รวมถึงยักษ์วัดแจ้ง และ พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก อันศักดิ์สิทธิ์ เรียกว่ามูได้ทุกจุดของวัด เพื่อเสริมความสิริมงคล เสริมความปังให้กับชีวิต
และไฮไลท์สำคัญที่หลายคนนิยมไปไหว้พระที่นี่ก็คือ การถ่ายรูปพระปรางค์ยามพระอาทิตย์ตกดิน บอกเลยว่าสวยงามสุดๆ สายมูที่ชอบถ่ายรูปต้องพลาดเลยจ้า
การเดินทาง: นั่งเรือข้ามฟากจากท่าเตียน หรือรถประจำทาง สาย 19, 57, 83
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/bM4vRGytuXYE4x2i7
เวลาเปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม : คนไทย เข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ชาวต่างชาติ ค่าเข้าชม บัตรราคา 200 บาท
ที่จอดรถ : มีที่จอดรถในวัด (เสียค่าบริการ)
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/watarunofficial
6. วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร (วัดไตรมิตร)
วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร หรือที่เรียกว่า วัดสามจีน เป็นวัดโบราณเก่าแก่ เป็นที่ประดิษฐานองค์ พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือ หลวงพ่อทองคำ ซึ่งถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่ในอดีต และได้รับการจดบันทึกลงกินเนสบุ๊ค ว่าเป็น พระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่นักท่องเที่ยวและสายมูนิยมมาขอโชคลาภ ทั้งด้านการงาน การเงิน และความมั่นคง
นอกจากนี้ที่วัดวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร (วัดไตรมิตร) ยังมีจุดเด่นคือ พระมหามณฑปสีขาวขนาดใหญ่ที่วิจิตรสวยงาม ภายในวัดมีความร่มเย็น นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ ทางศาสนา และประวัติความเป็นมาเยาวราชให้ชมด้วย
การเดินทาง : รถไฟฟ้า MRT สถานีหัวลำโพง ทางออกหมายเลข 1 และเดินเท้าประมาณ 5 นาที
พิกัด : https://goo.gl/maps/jUAKbr2gzYkcGLgx7
เวลาเปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม : คนไทย เข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ชาวต่างชาติ ค่าเข้าชม บัตรราคา 100 บาท
ที่จอดรถ : มีที่จอดรถในวัด
เว็บไซต์ : https://m.facebook.com/WatTrimitrWithayaramWorawihan/
7. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร (วัดระฆัง)
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร (วัดระฆัง) เดิมชื่อว่าวัดบางหว้าใหญ่ เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ทางฝั่งธนบุรี เป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญและสวยงาม ถูกสร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา อีกทั้งยังมีพระปรางค์ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมรัตนโกสินทร์ยุคต้นที่มีทรวดทรงงดงาม นอกจากนี้วัดระฆังถือเป็นวัดในกรุงเทพฯ ที่มีชื่อเสียงมากๆ เพราะพระเถระ คือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ที่เป็นเจ้าอาวาสวัดระฆัง ปีพ.ศ. 2395 จนมรณภาพในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ. 2415 วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารจึงเป็นอีกวัดทีสายสายมูผู้มีจิตศรัทธาไม่ควรพลาดเป็นอย่างมาก
การเดินทาง : นั่งเรือข้ามฟากจากท่าเตียน หรือรถประจำทาง สาย 19, 57, 83
พิกัด : https://goo.gl/maps/czSpi8v9cyLqzh5v9
เวลาเปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 8.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม : –
ที่จอดรถ : ทางวัดมีที่จอดรถชั่วโมงละ 20 บาท
เว็บไซต์ : https://m.facebook.com/watrakhang.official/
8. วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร (วัดบวร)
วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร (วัดบวร) หรือมีชื่อเดิมว่าวัดใหม่ เป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญของทริป ไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร สถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีน และ ยุโรป ทำให้พระอุโบสถของ วัดบวรนิเวศวิหาร มีความยิ่งใหญ่และวิจิตรงดงามในเวลาเดียวกัน เป็นวัดประจำ 2 รัชกาลของกรุงรัตนโกสินทร์ ได้แก่ รัชกาลที่ 6 และ รัชกาลที่ 9 และเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
นอกจากนี้ยังเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชถึง 4 พระองค์ และภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธชินสีห์ เป็นพระประธาน ซึ่งควรค่าแก่ไปกราบไหว้เพื่อสิริมงคลเป็นที่สุด
การเดินทาง : รถประจำทาง : สาย 12,15, 56, 68, ปอ.511
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/SSGUcdp71Q2KAB1DA
เวลาเปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น.
ค่าเข้าชม : คนไทย ค่าเข้าชม 30 บาท ชาวต่างชาติ ค่าเข้าชม บัตรราคา 200 บาท
ที่จอดรถ : จอดในโรงเรียนวัดบวรนิเวศ ค่าจอดรถ 20 บาท
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/วัดบวรนิเวศวิหาร
9. วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดสุทัศน์)
วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร สร้างขึ้นในสมัย รัชกาลที่ 1 ซึ่งใช้ชื่อเดิมว่า วัดสุทธาวาส เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหารที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งของประเทศไทย เก่าแก่และมีความงดงามทางด้านศิลป์วัฒนธรรม โดยพระวิหารหลวง เป็นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัญ ซุ้มประตูด้านหน้าพระวิหารหลวง ตรงกับพระประธาน คนไทยนิยมมากราบไหว้ขอพร เพื่อการมีวิสัยทัศน์กว้างไกล
นอกจากนี้บริเวณหน้าวัดยังเป็นที่ตั้งของ เสาชิงช้า ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างให้ความสนใจมาถ่ายรูปเช็คอินกันเป็นจำนวนมาก
การเดินทาง : รถประจำทาง : สาย 10, 12, 15, 19, 35, 42, 48, 73, 96
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/8Kez8eDA2nLdViTX8
เวลาเปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
ค่าเข้าชม : –
ที่จอดรถ :
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/WatRajabopit2412
เดินทางไปไหว้พระ 9 วัด ด้วยวิธีไหนดี
การเดินทางไปไหว้พระ 9 วัด อาจมีหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็อาจจะใช้ระยะเวลา ค่าใช้จ่าย และมีความสะดวกสบายแตกต่างกัน เช่น
รถประจำทาง
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เช่น รถประจำทาง รถไฟฟ้า MRT, BTS หรือเรือโดยสาร ซึ่งเป็นวิธีที่ประหยัดแต่อาจจะต้องใช้เวลาในการเดินทางมากกว่าวิธีอื่นๆ เนื่องจากบางวัดนั้นรถโดยสารประจำทางอาจไม่ได้ผ่านโดยตรง ต้องต่อรถหลายต่อหรือเดินเท้าไปที่วัดอีกที ซึ่งอาจทำให้การไหว้พระให้ครบ 9 วัดในเวลาที่กำหนดนั้นเป็นไปได้ยาก
รถยนต์ส่วนตัว
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว เป็นวิธีสะสะดวกเพราะสามารถเลือกเส้นทางได้เอง และไม่ต้องเสียเวลาต่อรถหลายต่อ แต่โดยส่วนมากการขับรถไปไหว้พระในกรุงเทพฯ มักเจอกับปัญหาในเรื่องของที่จอดรถ ซึ่งหาได้ยากและค่อยข้างมีจำกัด นอกจากนี้บางที่อาจจะเสียค่าบริการที่จอดรถ ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะหากจะต้องไปกันหลายๆ คน และต้องใช้รถหลายคัน
เช่ารถบัส
การเดินทางด้วยรถบัสเช่า เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกสบาย โดยเฉพาะการเช่ารถบัสเพื่อไปไหว้พระกันแบบหมู่คณะ เพราะไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายที่อาจบานปลาย ไม่ต้องเผื่อเวลาในการต่อรถ สามารถออกแบบการเดินทางเองได้ และที่สำคัญไม่ต้องตามหาที่จอดรถให้เสียเวลา เพราะ Patsornchai Tour เราให้บริการพร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง สามารถส่งท่านถึงที่หมายได้โดยไม่ต้องเดินไกล และสามารถวนรถกลับมารับได้ตามเวลาที่กำหนด อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อให้การเดินทางไหว้พระเป็นทริปที่น่าจดจำ
สรุป
นี่ก็คือทริปอิ่มบุญไปอิ่มใจกับการไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพฯ ที่สายมูไม่ควรพลาด รับรองว่าเดินทางสะดวกสบาย สามารถไหว้ได้ครบใน One day trip นอกจากนี้แล้วในกรุงเทพยังมีวัดที่สวยงาม และมีชื่อเสียงอีกมากมายให้ไปไหว้พระทำบุญในช่วงวันหยุด ซึ่งหากใครอยากวางแผนเดินทางไปไหว้พระที่วัดต่างๆ ในกรุงเทพฯ หรือเดินทางไหว้พระต่างจังหวัดสามารถปรึกษาภัสสรชัยทัวร์ เพื่อให้ทุกการเดินทางของคุณเป็นเรื่องง่าย